"อาชีพในอนาคต" ความฝัน และแรงบันดาลใจ
เมื่อถามถึงอนาคตของข้าพเจ้าที่ใฝ่ฝัน และวางแผนที่จะทำในอนาคตนั้นแต่ละคนมีมากมายหลายความฝัน ข้าพเจ้าก็เช่นกัน แต่เมื่อลองมองไปในอนาคต ดูในแง่ของความมั่นคง ความสุข และเรื่องต่างๆ อาชีพที่ข้าพเจ้าคิดจะเป็นนั้นก็คือ อาชีพ"นักบัญชี" เรามารู้จักอาชีพ นับัญชีในมุมมองของข้าพเจ้ากันดีกว่า......
นักบัญชีคืออะไร???
"นักบัญชี” ถือเป็นอาชีพหนึ่ง
ที่ต้องอาศัยความรู้ความสามารถเฉพาะทาง และร่ำเรียนมาโดยตรง
ทำงานในสายงานบัญชี จนมีประสบการณ์มากพอสมควร
ผ่านความรับผิดชอบเป็นสมุห์บัญชี หรือผู้จัดการฝ่ายบัญชีมาก่อน
จึงจะได้รับการยอมรับให้เป็น “นักบัญชี”
“ผู้ทำบัญชี” เป็นวิชาชีพ
ที่ปัจจุบันมีการตรากฎหมายออกมาเพื่อคุ้มครองอาชีพนี้โดยเฉพาะ คือ
พระราชบัญญัติ การบัญชี พ.ศ.๒๕๔๓ “ผู้ทำบัญชี” ที่มีคุณสมบัติตามกฎหมาย
แต่อาจไม่ใช่ “นักบัญชี” หากว่าผู้นั้นยังขาดประสบการณ์ในหน้าที่งานบัญชี
และเช่นกัน “นักบัญชี” ผู้มีความสามารถและประสบการณ์ ไม่อาจจะเป็น
“ผู้ทำบัญชี” ได้หากว่าขาดคุณสมบัติวุฒิการศึกษาตามที่กฎหมายกำหนด
เมื่อกล่าวถึง “ผู้ทำบัญชี” ก็ต้องกล่าวถึง “ผู้สอบบัญชี” ซึ่งเป็นวิชาชีพอิสระอีกอาชีพหนึ่ง ที่ต้องอาศัยซึ่งกันและกัน ดังกฏที่ว่า งบการเงินของกิจการหนึ่ง ๆ ผู้ทำบัญชี และผู้ตรวจสอบบัญชีต้องมิใช่คนเดียวกัน หรือเรียกว่า คนทำไม่ตรวจ คนตรวจก็ไม่ทำบัญชี คล้ายกับอาชีพหมอ ที่ว่า แพทย์เป็นผู้ตรวจแล้วสั่งยา แต่ไม่หยิบยาเอง ส่วนเภสัชกรมีหน้าที่หยิบยา แต่ไม่มีหน้าที่สั่งยาให้คนไข้ หรือยกอีกตัวอย่างหนึ่ง คืออาชีพวิศวกร กับสถาปัตยกรรม ทั้งสองอาชีพทำหน้าที่คู่ขนาน
1.เป็นอาชีพที่มีเกียรติ
ทั้ง นี้ผู้ประกอบวิชาชีพต้องปฎิบัติตน ทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ มีระเบียบวินัย และธำรงไว้ซึ่งจรรยาบรรณในวิชาชีพ ท่านจะได้รับเกียรติและการยอมรับจากลูกค้าและบุคคลทั่วไป
2. สร้างคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติ
ถือ ว่ามีส่วนร่วมในสังคม เป็นกลไกหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างความยุติธรรม ความโปร่งใส ธรรมาภิบาล อันทำให้สังคมอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ
3. ความมีเอกภาพ
นัก บัญชีที่ดีต้องมีเอกภาพ มีอิสระที่จะปฎิบัติหน้าที่อย่างถูกต้องตรงไปตรงมา ฝ่ายผู้ประกอบการต้องการเสียภาษีน้อย แต่ฝ่ายเจ้าหน้าที่สรรพากรต้องการเก็บภาษีให้ได้มาก ๆ เรานักบัญชีเป็นผู้อยู่ตรงกลาง ทำอย่างไรจึงจะให้ได้รับความพอใจทั้งสองฝ่าย และอยู่บนเงื่อนไขความถูกต้องด้วย
---------------------------------------------------------------------
เมื่อกล่าวถึง “ผู้ทำบัญชี” ก็ต้องกล่าวถึง “ผู้สอบบัญชี” ซึ่งเป็นวิชาชีพอิสระอีกอาชีพหนึ่ง ที่ต้องอาศัยซึ่งกันและกัน ดังกฏที่ว่า งบการเงินของกิจการหนึ่ง ๆ ผู้ทำบัญชี และผู้ตรวจสอบบัญชีต้องมิใช่คนเดียวกัน หรือเรียกว่า คนทำไม่ตรวจ คนตรวจก็ไม่ทำบัญชี คล้ายกับอาชีพหมอ ที่ว่า แพทย์เป็นผู้ตรวจแล้วสั่งยา แต่ไม่หยิบยาเอง ส่วนเภสัชกรมีหน้าที่หยิบยา แต่ไม่มีหน้าที่สั่งยาให้คนไข้ หรือยกอีกตัวอย่างหนึ่ง คืออาชีพวิศวกร กับสถาปัตยกรรม ทั้งสองอาชีพทำหน้าที่คู่ขนาน
(ที่มา : http://www.unigang.com/Article/9236)
เส้นทางสู่อาชีพบัญชี และเส้นทางของสายอาชีพ
นักบัญชี เป็นหนึ่งในวิชาชีพที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน อาชีพนักบัญชีเป็นหนึ่งในวิชาชีพที่ผู้จะเป็นได้นั้นต้องจบจากคณะพาณิชาศาสตร์และการบัญชี หีือคณะอะไรก็ตามที่ได้ปริญญาบัญชีบัณฑิต โดยในประเทศไทยมีมหาวิทบาลัยมากมายที่เป็นสอนในสายงานนี้เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มศว. และมหาลัยอื่่นอีกมากมาย รวมถึงมหาวิทยาลัยเอกชนด้วย และเนื่องจากอาชีพนี้เปิดสอนเป็นจำนวนมาก ทำให้ย่อมมีการแข่งขันที่สูง แต่ก็ถือเป็นโชคดีที่อาชีพสายนี้สามารถทำงานได้หลากหลาย ปรพกอบกับเป็นอาชีพที่ได้รับอนุญาติให้ทำงานได้เสรีเมื่อเปิดอาเซียน โดยตัวอย่างของสายงาน เช่น นักบัญชี ที่ปรึกษาทางบัญชี ผู้ตรวจสอบบัญชี ผู้สอบภาษี นักวิเคราะห์ต้นทุน เจ้าหน้าที่ทางการเงิน เจ้าหน้าที่ทางการตลาด พนักงานธนาคาร และอาชีพอื่นๆอีกมากมาย
(ที่มา : http://www.dek-d.com/admission/25176/)
เหตุผล และแรงบันดาลใจ
เหตุผล และแรงบันดาลใจที่ข้าพเลือก และใฝ่ฝันที่จะประกอบอาชีพนั้นคือ อาชีพของสายนักบัญชี นั้นคือ อาชีพนักบัญชีถือว่าเป็นวิชาชีพสายหนึ่ง ที่ผู้ที่ไม่ได้เรียนสายนี้มาจะไม่สามารถประกอบอาชีพนี้ได้ และยังรวมถึงอาชีพนักบัญชีเป็นอาชีพที่ดี มีรายได้มั่นคง เป็นอาชีพที่สามารถตอบสนองความต้องการของตลากได้ เพราะบริษัททุกบริษัทจำเป็นที่จะต้องมีนักบัญชี ทำให้อาชีพนี้แทบไม่เคยตกงาน นอกจากมีงานทำแน่นอนแล้ว เรายังสามารเลือกสายงานได้หลากหลายตามความสนใจ แต่ในเหตุผลที่สำคัญที่สุดที่ข้าพเจ้าอยากประกอบอาชีพนี้ เพราะ คิดว่าอาชีพนี้จะทำให้ชีวิตของข้าพเจ้ามีความสุข แม้จะเหนื่อย หรือท้อก็ตาม การได้ประกอบอาชีพที่ตนรักนั้นย่อมทำให้เรามีอนาคตที่ดี และมีความสุขในทุกๆวันที่ทำงาน
ลักษณะของนักบัญชีที่ดี
- ซื่อสัตย์ มีจรรยาบรรณวิชาชีพ เนื่องจากนักบัญชีจะรับทราบตัวเลขความเคลื่อนไหวทางการเงินของบริษัทอยู่ตลอดเวลา นักบัญชีที่ดีจะไม่เปิดเผยข้อมูลต่างๆ ทางการเงินของบริษัทเด็ดขาด
- ขยัน อดทน รับผิดชอบงานในหน้าที่ให้สำเร็จลุล่วงตามกำหนดเวลา จึงเป็นเรื่องปกติที่จะเห็นนักบัญชีกลับบ้านดึกกว่าแผนกอื่นเสมอ
- ละเอียดรอบคอบ ถี่ถ้วน ในการมอบหรือรับมอบเอกสารเกี่ยวกับการเงิน ควรเรียกเก็บหลักฐานทางการเงิน และตรวจสอบความถูกต้องทุกครั้ง ควรจัดเก็บเอกสารการเงิน การบัญชีทุกฉบับไว้ในที่ปลอดภัย ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
- มีความรู้แน่นภาคทฤษฎี และประยุกต์ใช้ให้เข้ากับธุรกิจได้ นักบัญชีจำเป็นต้องนำทฤษฎีมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลตัวเลขได้อย่าง ถูกต้องแม่นยำ ในขณะเดียวกันก็ต้องมีความเข้าใจในธุรกิจของบริษัท และนำทฤษฎีมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับธุรกิจได้ด้วย
- สร้างแรงกดดันให้ตนเอง ในการทำงานควรมีการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน และหาวิธีที่จะทำให้ได้ตามเป้า นอกจากนั้น นักบัญชียังสามารถพัฒนาตนเองได้ตลอดเวลา ด้วยการกำหนดเวลาในการทำงานให้สั้นลง หรือขอทำงานที่ยากขึ้นเรื่อยๆ
- กล้านำเสนอ แนวคิดและวิธีการใหม่ๆ ที่เป็นประโชน์ต่อบริษัท รวมทั้ง รีบแจ้งผู้มีอำนาจทราบทันที เมื่อพบการทุจริต หรือความเสียหายใดๆ
- ทบทวนตนเองทุกปี ตั้งคำถามว่าตนเองต้องการอะไร และในปีที่ผ่านมาทำอะไรไปแล้วบ้าง ยังมีอะไรที่ต้องทำอีกบ้าง มีอะไรที่ผิดพลาดบ้าง เพื่อหาทางแก้ไข และปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้น ไม่ให้เกิดความผิดพลาดอีกเป็นครั้งที่สอง
- เปิดรับเทคโนโลยี ข้อมูล ข่าวสาร และสิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา นักบัญชีควรหาโอกาสพูดคุยพบปะกับคนในวิชาชีพเดียวกัน เพื่อแลกเปลี่ยนความคิด และเข้าใจวิธีการทำงานของคนอื่น รวมทั้งหมั่นศึกษากฎหมายเกี่ยวกับการบัญชี และภาษีอากรที่เกี่ยวข้องอยู่เสมอ
ความภูมิใจของสายอาชีพ
1.เป็นอาชีพที่มีเกียรติ
ทั้ง นี้ผู้ประกอบวิชาชีพต้องปฎิบัติตน ทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ มีระเบียบวินัย และธำรงไว้ซึ่งจรรยาบรรณในวิชาชีพ ท่านจะได้รับเกียรติและการยอมรับจากลูกค้าและบุคคลทั่วไป
2. สร้างคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติ
ถือ ว่ามีส่วนร่วมในสังคม เป็นกลไกหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างความยุติธรรม ความโปร่งใส ธรรมาภิบาล อันทำให้สังคมอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ
3. ความมีเอกภาพ
นัก บัญชีที่ดีต้องมีเอกภาพ มีอิสระที่จะปฎิบัติหน้าที่อย่างถูกต้องตรงไปตรงมา ฝ่ายผู้ประกอบการต้องการเสียภาษีน้อย แต่ฝ่ายเจ้าหน้าที่สรรพากรต้องการเก็บภาษีให้ได้มาก ๆ เรานักบัญชีเป็นผู้อยู่ตรงกลาง ทำอย่างไรจึงจะให้ได้รับความพอใจทั้งสองฝ่าย และอยู่บนเงื่อนไขความถูกต้องด้วย
---------------------------------------------------------------------
----------------------------------------